
ประมวลศัพท์เกี่ยวกับเครื่องตรวจวัด
ความแม่นยำ (Accuracy)
ความแม่นยำของเครื่องมือวัดชนิดที่เป็นดิจิตอลหรือแบบตัวเลขนั้น จะกำหนดด้วยผลต่างระหว่างค่าที่วัดได้กับค่าที่แท้จริงภายใต้สภาพที่เป็นมาตรฐานตามปกติ ดังค่าที่แสดงไว้ข้างล้างนี้ (±xx% rdg ±xx dgt) ความแม่นยำของค่าตัวแรกจะแสดงไว้เป็นหน่วยของ % ที่ได้เปรียบเทียบกับขนาดของ INPUT ภายใต้ค่าความแตกต่างที่มีต่อค่าที่สามารถอ่านได้ สำหรับค่าตัวที่สองนั้นจะแสดงถึงค่าความแตกต่างของค่าคงที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับ INPUT โดยจะแสดงไว้ด้วยจำนวน DIGIT “RDG” จะแสดงถึงค่าที่อ่านได้ ซึ่งย่อมาจากคำว่า reading ส่วน “dgt” จะแสดงเป็นตัวเลข ซึ่งย่อมาจากคำว่า digit อันเป็นตัวเลขที่เป็นหลักเล็กที่สุดของการชี้ค่าของ DIGITAL ซึ่งส่วนใหญ่จะแสดงถึงปัจจัยความแตกต่างของเครื่องมือวัดทาง DIGITAL
ฟังก์ชั่นการคายประจุอัตโนมัติ (Auto-discharge Function)
ฟังก์ชั่นนี้จะเป็นตัวปล่อยไฟที่ได้ชาร์จไว้แล้วอย่างอัตโนมัติ เมื่อการวัดความต้านทานฉนวนได้สิ้นสุดลง
เปลี่ยนเร้นจ์การวัดอัตโนมัติ (Auto-ranging)
เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างอัตโนมัติต่อขนาดของสัญญาณ INPUT ของ RANGE เครื่องมือวัด
ค่าเฉลี่ย (Average Value)
ค่าเฉลี่ยของค่าชั่วคราวของระยะครึ่งกระแสสลับการแสดงค่าของเครื่องมือวัดโดยทั่วไป จะเป็นค่าเฉลี่ยดังกล่าวนี้เป็นเกณฑ์
ในกรณีของคลื่นปกติ : ค่าเฉลี่ย = ค่าสูงสุด x 2= ค่าสูงสุดx0.637
ในกรณีของค่าที่แท้จริงเป็น 100V : ค่าเฉลี่ย = ค่าสูงสุด x 2= 141x0.637 = 90(V)
เครื่องมือวัดโดยทั่วไปจะชี้ค่าเป็นค่าเฉลี่ยเสมอ แต่ได้มีการแก้ไข้เป็นค่าที่แท้จริง เราเรียกกันว่ารูปแบบการชี้ค่าที่แท้จริงของค่าเฉลี่ย ในกรณีที่นอกเหนือจากรูปคลื่นปกติแล้วจะเป็นค่าคลาดเคลื่อนได้ ในทางตรงกันข้ามค่าที่แท้จริงที่สามารถวัดได้โดยตรงนั้น จะเรียกว่ารูปแบบค่าจริงของค่าที่แท้จริง
ตัวประกอบยอดคลื่น (Crest Factor)
หมายถึง การเปรียบเทียบค่าที่แท้จริงของค่าสูงสุด จะแสดงด้วยการเคลื่อนไหวในรูปของเส้นตรงว่าต้อง INPUT เป็นจำนวนกี่เท่าของ INPUT RANGE ของเครื่องมือวัด กล่าวคือ
ตัวประกอบยอดคลื่น (Crest Factor) = ค่าสูงสุด/ค่าที่แท้จริง (True RMS) ในกรณีของคลื่นปกติ
ตัวประกอบยอดคลื่น (Crest Factor) = 141/100 = 1.41
ระบบค้างตัวเลข (Data Hold)
เป็นการคงค่าแสดงผลของการวัดให้คงที่ เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบและบันทึกค่าที่วัดได้ของเครื่องมือวัด
เดซิเบล (Decibel: dB)
คือ หน่วยที่ใช้ในการแสดงค่าความเปลี่ยนแปลงของการสั่นสะเทือนของสัญญาณทางไฟฟ้าและระดับเสียง เป็นต้น 1:10 ของการเปรียบเทียบแรงดันไฟฟ้า จะเท่ากับ -20dB และ 10:1 จะเท่ากับ 20dB นอกจากนี้ 100:1 จะเท่ากับ 40dB ดังนั้น 1000:1 จะเท่ากับ 60dB กล่าวคือ ยกกำลัง 2 ของแรงดันไฟฟ้า (E²) คือ กำลังไฟฟ้า (P) ดังนั้นกำลังไฟฟ้า 10:1 จะเท่ากับ 10dB ไม่ใช่ 20dB
การทดสอบไดโอด (Diode Test)
เป็นฟังก์ชั่นการตัดสินว่าไดโอดที่วัดนั้นตรงขั้วหรือสลับขั้ว ด้วยการปล่อยแรงดันไฟฟ้าและผ่านกระแสไฟฟ้าเท่าที่จำเป็นที่จะทำให้ DIODE TRANSISTOR ON ได้
ตัวประกอบความเพี้ยน (Distortion Factor)
เป็นการแสดงให้เห็นถึงระดับของรูปคลื่นรบกวน โดยทั่วไปจะหมายถึงการเปรียบเทียบค่าที่แท้จริงของคลื่นพื้นฐานกับค่าที่แท้จริงของ HIGH FREQUENCY
Dual Integration Method
เป็นสูตรการเปลี่ยนแปลงแรงดันไฟฟ้าให้เป็นระยะเวลา ซึ่งประกอบด้วยสมการเวลาตัวที่ 1 (Ts) กับสมการตัวที่ 2 (Tx) ในขั้นตอนแรกจะกำหนดให้ INPUT VOLTAGE (Vx) เป็นสมการเวลาคงที่ แล้วจึงตามด้วยสมการสลับจนกว่าจะกลายเป็น 0 ที่ STANDARD VOLTAGE (Vr)
สมการเวลาสลับ (Tx) จะเป็นระยะเวลาที่เปรียบเทียบกับ INPUT VOLTAGE (Vx) และจากการตรวจวัดระยะเวลาดังกล่าวก็จะทำให้หา INPUT VOLTAGE (Vx) ได้
จากสูตรดังกล่าวนี้ การลดเสียงรบกวนจะทำให้สามารถตรวจวัดได้อย่างมั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง LINE FREQUENCY ของ 50Hz หรือ 60Hz นั้น จะสามารถลดเสียงรบกวนได้เป็นอย่างมาก ซึ่งมิเตอร์แบบดิจิตอบที่ทางบริษัทฯ ได้ผลิตนั้นล้วนแล้วแต่จะใช้สูตรการผลิตดังกล่าวเป็นเกณฑ์